ลีลาวดี Plumeria spp

ไม้ต้นขนาดกลาง เนื้อไม้อ่อน แตกกิ่งก้านเป็นแฉก เป็นง่าม ทำให้แลเห็นว่าทรงพุ่มใหญ่โต มียางขาวเหนียว เป็นพันธุ์ไม้สลัดใบในฤดูแล้งก่อนที่จะผลิดอกและผลิใบรุ่นใหม่ ทั้งต้นและกิ่งนั้นก็อวบน้ำ ฉะนั้นจึงสามารถขึ้นได้ในที่แห้งแล้งเป็นอย่างดี ใบโต ดอกออกเป็นช่อ ขนาดของดอกก็โตพอใช้ มีหลายสีด้วยกัน อาจจำแนกและเรียกได้ว่าจำพวกสีนั้น สีนี้ตามถนัด ส่วนกลิ่นนั้นหอมแรงมากน้อยตามชนิด

ลีลาวดี มีชื่อสามัญว่า Plumeria, Frangipani, Temple tree (ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Plumeria spp.) จัดอยู่ในวงศ์ตีนเป็ด (APOCYNACEAE) และอยู่ในวงศ์ย่อยระย่อม (RAUVOLFIOIDEAE) มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า จำปา, จงป่า (กาญจนบุรี), จำปาลาว (ภาคเหนือ), จำปาขาว (ภาคอีสาน), จำปาขอม (ภาคใต้), ไม้จีน (ยะลา), มอยอ (นราธิวาส), จำไป (เขมร) เป็นต้น โดยเป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายเพราะออกดอกตลอดปี เลี้ยงดูง่าย และสีของดอกลีลาวดีนั้นยังมีสีสันสดใส สวยงาม ไม่ว่าจะเป็น ขาว เหลืองอ่อน ชมพู แดง ฯลฯ ซึ่งบางดอกอาจจะมีมากกว่า 1 สีก็ได้ และดอกลั่นทมยังเป็นดอกไม้ประจำชาติของประเทศลาวอีกด้วยครับ

ประวัติดอกลีลาวดี เดิมทีแล้วต้นลั่นทมเป็นไม้ที่นำเข้ามาจากเขมร ซึ่งมีชื่อเดิมว่า "ต้นขอม" เล่ากันว่ามีการนำเข้ามาปลูกในไทย เมื่อครั้งไปตีนครธมจนได้รับชัยชนะ แล้วได้มีการนำต้นไม้ชนิดนี้เข้ามาปลูก และเรียกชื่อเป็นที่ระลึกว่า "ลั่นธม" โดยคำว่าลั่นนั้นแปลว่า ตีฆ้อง ลั่นฆ้อง ลั่นกลอง ส่วนคำว่าธมนั้นมาจากคำว่า "นครธม" จึงเป็นที่มาของชื่อลั่นธม และเพี้ยนกลายมาเป็น "ลั่นทม" ในปัจจุบัน โดยมีผู้รู้ด้านภาษาไทยได้กล่าวถึงความหมายของลั่นทมไว้ โดยมีความหมายว่า "การละแล้วซึ่งความทุกข์ความโศกเศร้าและมีความสุข" เพราะคำว่า ลั่น นั้นมีหมายว่า แตกหัก ละทิ้ง ส่วนคำว่า ทม ก็หมายถึงความทุกข์โศก