9 วิธีเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ
บทความนี้รวบรวมแนวทางสำคัญที่ใช้พิจารณาเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวผ่านช่วงเวลาสำคัญ ได้เจอศูนย์ดูแลผู้สูงอายุตรงความต้องการ
Click เพื่ออ่านต่อ
โภชนาการที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นและมีความสำคัญต่อการบำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีภาวะกลืนลำบาก เพื่อป้องกันการสำลักอาหารและน้ำอาหารสำหรับผู้มีภาวะกลืนลำบากจึงควรเป็นอาหารที่มีความหนืด มีความสามารถในการไหล มีความเสียดทานและความหนาแน่นที่เหมาะสม นอกจากนี้ควรมีคุณค่าทางอาหารและมีปริมาณพลังงานที่เพียงพอด้วย
ระดับของอาหารสำหรับผู้มีภาวะกลืนลำบาก
ระดับที่ 1 อาหารข้นหนืด ไม่มีน้ำ : อาหารมีลักษณะปั่นจนข้นหนืดเป็นเนื้อเดียวกัน มีส่วนผสมของของเหลวน้อยมาก เช่น โจ๊กปั่นข้น ฟักทองบด มันเทศบด เผือกบด กล้วยขูด โยเกิร์ต เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคี้ยวอาหารแข็งหรือกลืนอาหารเหลวได้ มักใช้สำหรับการเริ่มฝึกกลืน
ระดับที่ 2 อาหารหนืด : อาหารปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกัน มีส่วนผสมของของเหลวมากกว่าอาหารระดับที่ 1 อาหารมีลักษณะความหนืดคล้ายน้ำผึ้ง เช่น โจ๊กปั่น ซุปข้น ไข่ลวก เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีความสามารถเคี้ยวอาหารได้เล็กน้อย และยังไม่สามารถกลืนอาหารที่มีเนื้อเหลวมากได้
ระดับที่ 3 อาหารอ่อนเคี้ยวง่าย น้ำน้อย : อาหารอ่อนที่บดหรือสับละเอียด หรืออาหารที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ และมีน้ำผสมเล็กน้อย ไม่มีเปลือกหรือกากแข็ง เช่น ข้าวต้มข้น ไข่ตุ๋น คัสตาร์ด ผลไม้สุกเนื้อนิ่ม เต้าหู้ไข่ เนื้อสัตว์สับละเอียด เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ยังเคี้ยวอาหารได้ไม่เต็มที่และกลืนของเหลวได้เล็กน้อย
ระดับที่ 4 อาหารอ่อน : อาหารเนื้อนิ่ม เปื่อย ที่สามารถเคี้ยวและกลืนได้ง่าย เช่น ข้าวต้มหมูบดละเอียด ปลานึ่ง แกงจืดเต้าหู้ ผักต้มสุก
ระดับที่ 5 อาหารปกติ : อาหารปกติทั่วไป เช่น ก๋วยเตี๋ยวน้ำ เกี๊ยวน้ำ ข้าวสวย ผัดมักกะโรนี ข้าวผัด เกาเหลา แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็งที่กลืนยาก เพราะอาจทำให้ผู้ป่วยไอและสำลักได้
อนึ่ง ในการเตรียมอาหารควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนักกิจกรรมบำบัดเป็นผู้พิจารณาระดับและสภาพเนื้ออาหารตามความสามารถในการกลืน เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ป่วย
ชนารักษ์ เนอร์สซิ่งโฮม ราชบุรี
โทร 032-240339, 095-487-2839, 096-649-6695
อ่านบทความ การฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยภาวะกลืนลำบาก (Dysphagia Training) :
https://www.chanaruk-nursinghome.com/th/health-news/dysphagia-training/
ข้อมูลอ้างอิง : กองเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
Image by Freepik