“โรคอัลไซเมอร์” เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของภาวะสมองเสื่อม เป็นโรคที่ยังรักษาให้หายขาดไม่ได้แต่สามารถชะลอการเกิดหรือลดอัตราการเสื่อมถอยของโรคได้
“ภาวะกลืนลำบาก” อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ การบริหารกล้ามเนื้อที่ช่วยในการกลืนจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยจะเป็นการเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการกลืนเพื่อประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวและการกลืนอาหารลงคอ ลดความเสี่ยงต่อการสำลักอาหาร และป้องกันภาวะแทรกซ้อน
การใช้ศิลปะร่วมในการบำบัดและรักษาผู้ป่วยสูงอายุ ได้รับการยอมรับในประสิทธิภาพมาอย่างยาวนาน งานวิจัยทางการแพทย์พบว่า ศิลปะมีประโยชน์หลายประการ
Click เพื่ออ่านต่อ
การฝึกเดิน (Gait training) เป็นส่วนสำคัญของการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง การเตรียมพร้อมก่อนการฝึกจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถเดินได้ด้วยตนเองเร็วขึ้นและมีรูปแบบการเดินที่ดี
ภาระการดูแลผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีภาวะพึ่งพิงเป็นงานที่เหน็ดเหนื่อย ใช้เวลาและก่อให้เกิดความตึงเครียดสูง ผู้ดูแลอาจจะเกิดความเหนื่อยล้า (Caregiver burden) หรืออาการหมดไฟในการดูแล (Caregiver burnout) ได้
การดูแลผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างสถานพยาบาลและครอบครัว การดูแลที่ดีจะลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน ความพิการและการเสียชีวิต ผู้ดูแลผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจในการดูแลผู้ป่วยอย่างถูกต้อง และเตรียมพร้อมในการรับมือปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น (Click เพื่ออ่านต่อ)
ความสามารถในการกลืนอาหารลดลงหรือ “ภาวะกลืนลำบาก” (Dysphagia) คือหนึ่งในปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุที่เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความผิดปกติของระบบประสาทที่ควบคุมการกลืนหรือโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง ภาวะสมองเสื่อม โรคพาร์กินสัน โรคทางระบบประสาท โรคทางจิตเวช รวมถึงโรคที่ทำให้กล้ามเนื้อมีภาวะเกร็ง ผู้สูงอายุที่มีภาวะหรือโรคต่างๆ เหล่านี้จะพบภาวะกลืนลำบากได้สูงถึง 50-75% และอาจมีภาวะสำลักเงียบร่วมด้วยถึง 40 – 70 % ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงตามมา โดยผู้สูงอายุเกิน 60 ปี มีอัตราการเสียชีวิตด้วยภาวะปอดติดเชื้อจากการสำลักสูงถึงเกือบ 30%
อาการที่บ่งบอกถึงภาวะกลืนลำบาก
อันตรายจากภาวะกลืนลำบาก
Dysphagia อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะขาดสารอาหาร ภาวะขาดน้ำ และน้ำหนักตัวลดเนื่องจากผู้ป่วยมักหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารเพราะกลัวการสำลักหรือรู้สึกว่ากลืนลำบากทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารหรือน้ำไม่เพียงพอ และยังเสี่ยงต่อภาวะปอดอักเสบจากการสำลัก (Aspiration Pneumonia) เพราะอาหารอาจนำเชื้อแบคทีเรียเข้าสู่ปอด รวมทั้งอาการสำลักเนื่องจากอาหารไปปิดกั้นทางเดินหายใจ ซึ่งบางรายอาจเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ภาวะกลืนลำบากยังส่งผลทางสังคมและจิตใจ โดยผู้สูงอายุมักมีความกังวลในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นทำให้ออกห่างจากสังคมเริ่มรับประทานอาหารคนเดียว นำไปสู่ภาวะซึมเศร้า หดหู่ มีผลทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง ไม่อยากอาหาร ยิ่งส่งผลให้สุขภาพโดยรวมทรุดโทรมมากขึ้นได้
การดูแลฟื้นฟู
ผู้มีปัญหาภาวะกลืนลำบากจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและได้รับคำแนะนำจากนักกิจกรรมบำบัดและนักกายภาพบำบัด เพื่อให้สามารถกลืนได้อย่างปลอดภัย โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
วัยสูงอายุเป็นวัยที่มีความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกาย ผู้ดูแลผู้สูงอายุควรมีความรู้ความเข้าใจ เมื่อพบปัญหาภาวะกลืนลำบากจำเป็นต้องให้การดูแลอย่างใกล้ชิดและได้รับคำแนะนำจากนักกิจกรรมบำบัดเพื่อให้สามารถกลืนได้อย่างปลอดภัย
แหล่งข้อมูล: ร.พ.ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ และบทความสุขภาพโดย ดร.พญ.กันต์นิษฐ์ พงศ์พิพัฒไพบูลย์
This website stores cookies. This is to manage personal information and help optimize the use of the website. You can read more at the Cookie Policy page.