วิธีป้องกันไม่ให้เป็น "ผู้ป่วยติดเตียง (bedridden)"

เมื่อมีอายุมากขึ้นระบบการทำงานของร่างกายจะเสื่อมถอยลง ส่งผลให้การรับความรู้สึกช้าลง การมองเห็นไม่ชัดเจน การทรงตัวไม่ดี และขาดความกระฉับกระเฉง โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลางเรื่องการประมวลผล ความเป็นเหตุผล การตัดสินใจและการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหกล้มได้บ่อยกว่าผู้สูงอายุทั่วไป เมื่อเกิดการหกล้มแล้ว หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีก็มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง (bedridden) ได้

เมื่อผู้สูงอายุหกล้มและมีอาการบาดเจ็บ ครอบครัวมักคิดว่าให้นอนพักประมาณ 2 – 3 วัน ก็หาย จึงไม่พาผู้สูงอายุไปพบแพทย์ บางคนปล่อยเวลานานกว่านั้นจนผู้สูงอายุมีปัญหาติดเตียง หรือ เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น แผลกดทับ จนยากต่อการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาใกล้เคียงเดิม สิ่งที่ผู้ดูแลหรือครอบครัวควรทำหากผู้สูงอายุหกล้ม คือ พาผู้สูงอายุไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูสภาพร่างกายว่ามีอาการบาดเจ็บส่วนไหนหรือไม่เพื่อการรักษาอย่างทันท่วงที นอกจากการรักษาอาการบาดเจ็บแล้ว ผู้ป่วยต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายเท่าที่จะทำได้เพื่อให้อาการต่างๆ ดีขึ้น

การกระตุ้นผู้ป่วยให้เคลื่อนไหวร่างกาย

  1. กระตุ้นให้มีการพลิกตัวเองบนเตียง เพื่อลดปัญหาการเกิดแผลกดทับ
  2. กระตุ้นให้นั่งระหว่างมื้ออาหาร ครั้งละ 30 – 60 นาที โดยปรับตามความสามารถของแต่ละคน เพื่อส่งเสริมให้สมรรถนะของหัวใจและกล้ามเนื้อได้ปรับตัวพร้อมที่จะยืนหรือเดินต่อไป แต่ไม่ควรนั่งนานเกินไปเพราะผู้สูงอายุอาจเมื่อยล้าจากความเสื่อมของหลังที่มีอยู่เดิม และไม่ให้ความร่วมมือในการนั่งครั้งต่อไป
  3. กระตุ้นให้มีการทำกิจวัตรประจำวันที่เคยทำได้เอง เช่น รับประทานอาหาร แปรงฟัน ล้างหน้า
  4. ควรเพิ่มการออกกำลังกายบริเวณแขนและขา เพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ชะลอการเกิดภาวะกระดูกพรุน กล้ามเนื้อลีบเล็ก และอาการข้อติด โดยแกว่งแขน ห้อยขา หรือยืนลงน้ำหนักบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง
  5. หากสามารถเดินได้ ควรกระตุ้นให้เดินบ่อยเท่าที่ทำได้ในเวลาที่แน่นอนโดยมีผู้ดูแลเดินไปด้วย นอกจากช่วยดูแลความปลอดภัยแล้วยังช่วยกระตุ้นให้ผู้สูงอายุอยากเดินมากขึ้น

นอกจากนี้การจัดสิ่งแวดล้อมก็มีความสำคัญในการกระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวบ่อยขึ้น เช่น ให้ผู้สูงอายุเดินไปรับประทานอาหารที่โต๊ะแทนที่จะเป็นบนเตียง เดินไปขับถ่ายในห้องน้ำแทนการใช้ผ้าอ้อม รวมทั้งจัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้ปลอดภัย เช่น พื้นไม่ลื่น ไม่มีสิ่งกีดขวาง แสงสว่างเพียงพอ มีราวจับในห้องน้ำ เป็นต้น

หากผู้สูงอายุมีปัญหาในการทรงตัว หรือหกล้มบ่อยตั้งแต่ 2 ครั้งต่อปี ครอบครัวควรพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุของการหกล้มและแก้ไข ป้องกันการหกล้มซ้ำ ลดความเสี่ยงที่จะบาดเจ็บ เช่น กระดูกแตกหักและภาวะแทรกซ้อนที่จะตามมา

ชนารักษ์ เนอร์สซิ่งโฮม ราชบุรี
โทร 032-240339, 095-487-2839, 096-649-6695


ข้อมูลอ้างอิง: รศ.พญ.ปิยะภัทร เดชพระธรรม คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล 

 

สาระสุขภาพอื่น ๆ