ป้องกัน "การติดเตียง"
เมื่อมีอายุมากขึ้นระบบการทำงานของร่างกายจะเสื่อมถอยลงทำให้เสี่ยงต่อการบาดเจ็บหกล้ม หากเกิดการหกล้มแล้วไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี ผู้สูงอายุมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง (bedridden) ได้
Click เพื่ออ่านต่อ
โรคพาร์กินสัน (Parkinson) เป็นโรคที่มักพบได้ในผู้สูงอายุ ตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป โดยโรคพาร์กินสันเกิดจากความเสื่อมของเซลล์ประสาทบริเวณก้านสมอง ทำให้ผลิตสารโดพามีนลดลง ซึ่งมีผลต่อการเคลื่อนไหวในมนุษย์ ส่งผลให้ผู้สูงวัยมีความผิดปกติทางการเคลื่อนไหว เช่น มือสั่น เดินหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ช้าลง จนเกิดความยากลำบากในการใช้ชีวิต โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ตามอาการ คือ
เป็นประเภทที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้สูงวัยที่เป็นโรคพาร์กินสัน ทำให้มีอาการสั่นที่มือและเท้า แม้กำลังอยู่เฉย ๆ และเคลื่อนไหวลำบากจากกล้ามเนื้อเกร็ง ทำให้การเคลื่อนไหวทางร่างกายช้าลง จนกระทบกิจวัตรประจำวัน เช่น การเดินผิดปกติ ใบหน้าเฉยชา และพูดเสียงเบาหรือพูดไม่ชัด อีกทั้งไม่สามารถควบคุมการทรงตัวได้
ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันยังมีอาการอื่น นอกเหนือจากการเคลื่อนไหวที่ส่งผลกระทบให้การใช้ชีวิตมีความยากลำบาก โดยมี 4 ประเภทอาการที่พบได้บ่อย ดังนี้
การได้รับกลิ่นลดลง
เกิดจากความเสื่อมของระบบประสาทในปุ่มรับกลิ่นหรือ Olfactory Bulb ซึ่งถือเป็นอาการแรกเริ่ม
มีอาการท้องผูก
เกิดจากความขัดข้องของทางเดินระบบอาหาร ทำให้การขับถ่ายของเสียผิดปกติ ในบางรายอาจต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์สำหรับการขับถ่าย
มีอาการนอนละเมอ
รวมถึงการนอนไม่หลับ ซึ่งเกิดจากสมองมีการสั่งการขณะหลับฝันผิดปกติ ทำให้ผู้สูงวัยนอนละเมอ ขยับแขนขาระหว่างการหลับ ทำให้เกิดความปวดเมื่อยตามร่างกาย
มีภาวะซึมเศร้า
ผู้สูงวัยที่เป็นโรคพาร์กินสันมีความผิดปกติทางอารมณ์ ทำให้บางครั้งรู้สึกผิดได้ง่ายจากความวิตกกังวล เบื่อหน่าย นำไปสู่ภาวะซึมเศร้า
ระยะที่ 1
เป็นระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยมักมีอาการสั่นที่มือหรือเท้าข้างใดข้างหนึ่ง รวมถึงอาจมีอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อร่วมด้วย โดยทั่วไปยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เพียงแต่การเคลื่อนไหวจะช้าลงเล็กน้อย
ระยะที่ 2
อาการสั่นมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น อาจลามไปทั้งสองข้างของร่างกาย เริ่มมีลักษณะท่าทางงอหรือผิดปกติ และการเคลื่อนไหวจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประจำวันมากขึ้น
ระยะที่ 3
เป็นช่วงที่เริ่มมีปัญหาในการทรงตัว เช่น การลุกจากที่นั่ง การเดิน หรือการหันตัว ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการล้มบ่อยครั้ง ต้องการความช่วยเหลือในการเคลื่อนไหวบางส่วน
ระยะที่ 4
อาการรุนแรงจนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เท่าที่ควร ผู้ป่วยอาจไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้โดยลำพัง จำเป็นต้องมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
ระยะที่ 5
เป็นระยะสุดท้ายของโรค ผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย หรืออาจกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงโดยสิ้นเชิง ต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบจากผู้เชี่ยวชาญ
อาการของโรคพาร์กินสันส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้สูงอายุอย่างมาก ทำให้ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ด้วยความเข้าใจ ละเอียดอ่อน และมีความเป็นมืออาชีพ ซึ่งในหลายกรณี ครอบครัวอาจไม่สามารถให้การดูแลได้อย่างครบถ้วน เนื่องจากขาดความรู้และประสบการณ์เฉพาะทาง ดังนั้น ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในต่างจังหวัดที่มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมสภาพแวดล้อมที่ใกล้ชิดธรรมชาติ จึงมีความพร้อมมากกว่าในการดูแลและฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจของผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคพาร์กินสันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณกำลังมองหาแนวทางในการดูแลผู้สูงวัยที่ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน
ชนารักษ์ เนอร์สซิ่งโฮม พร้อมแบ่งปันวิธีการและรูปแบบการดูแลที่เราเลือกใช้อย่างใส่ใจและเป็นระบบ ดังนี้
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุชนารักษ์ เนอร์สซิ่งโฮม ราชบุรี อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด มีประสบการณ์ยาวนานในการดูแลผู้สูงวัยหลากหลายกลุ่ม จึงให้ความสำคัญกับการจัดเตรียมอาหารที่เหมาะสมและมีคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะสำหรับผู้สูงวัยที่ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ซึ่งมักมีภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น อาการท้องผูก โรคเบาหวาน หรือความดันโลหิตสูง อาหารที่ดีจึงต้องช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาเมนูเฉพาะสำหรับผู้ที่มีภาวะกลืนลำบาก เพื่อให้สามารถรับประทานอาหารได้อย่างปลอดภัย ได้รับสารอาหารครบถ้วน และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกวัน
ผู้สูงวัยที่เป็นโรคพาร์กินสันประสบปัญหาด้านการเคลื่อนไหว การกิน และการทรงตัว ทำให้กายภาพบำบัดมีความจำเป็นต่อผู้สูงวัย ด้วยการฝึกเดิน ลุง นั่ง ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติในต่างจังหวัด เพื่อลดอาการเกร็งและยึดติดของกล้ามเนื้อให้มีประสิทธิภาพ แต่ไม่สร้างความกดดัน แม้แต่ผู้ป่วยระยะที่ 5 ก็สามารถทำกายภาพบำบัดได้ด้วยการแกว่งแขน แกว่งขา และยกขา ฯลฯ กับนักกายภาพบำบัดมืออาชีพ เพื่อปรับสมดุลของการทรงตัวและการเคลื่อนไหว
ผู้ป่วยระยะร้ายแรงยังได้รับการบำบัดแบบ Oral Motor Rehabilitation ซึ่งช่วยกระตุ้นการรับประทานอาหารหรือการกลืน เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย
การดูแลด้านสุขอนามัยพื้นฐาน เช่น การอาบน้ำ การแปรงฟัน การดูแลผิวพรรณ และการเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุชนารักษ์ให้ความใส่ใจอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตนเองได้น้อย นอกจากนี้ยังมีมาตรการป้องกันปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย เช่น การป้องกันแผลกดทับ การป้องกันการหกล้ม และการรักษาความสะอาดของอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้รับการดูแล ในกรณีฉุกเฉิน ศูนย์ฯ ยังมีบริการรถรับ-ส่งผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลทางการแพทย์อย่างครอบคลุมและทันท่วงที
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุชนารักษ์เข้าใจเป็นอย่างดีว่า ผู้สูงวัย โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน มักมีความเปราะบางทางอารมณ์และจิตใจ จึงมีทีมงานที่ผ่านการอบรมด้านจิตวิทยาและการดูแลอย่างเข้าใจ พร้อมพูดคุย รับฟัง และดูแลอย่างใกล้ชิด
พร้อมกันนี้ยังมีกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาพจิตและพัฒนาการทางสังคมอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมศิลปะ ดนตรีบำบัด การฝึกสมาธิ หรือการเดินเล่นท่ามกลางธรรมชาติของต่างจังหวัด เพื่อให้ผู้สูงวัยได้ผ่อนคลาย มีความสุข และมีพลังใจในการใช้ชีวิตประจำวัน
การสร้างความสุขให้กับผู้สูงวัยที่ป่วยเป็นโรคพาร์กินสันไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของเวลา แต่ยังต้องอาศัยแรงกาย แรงใจ ความเข้าใจ และความชำนาญเฉพาะทาง ซึ่งบางครั้งอาจเกินขีดความสามารถของสมาชิกในครอบครัวที่จะดูแลได้อย่างครบถ้วน
ด้วยเหตุนี้ การเลือกศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่มีความพร้อมทั้งด้านบุคลากร สิ่งแวดล้อม และแนวทางการดูแลที่ถูกต้อง จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุด
ชนารักษ์ เนอร์สซิ่งโฮม ในจังหวัดราชบุรี เป็นศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ให้การดูแลผู้ป่วยโรคพาร์กินสันอย่างใกล้ชิด ด้วยความเข้าใจลึกซึ้งและความเอาใจใส่เสมือนญาติสนิท ไม่เพียงแต่ช่วยดูแลด้านร่างกาย แต่ยังดูแลด้านจิตใจและอารมณ์ เพื่อให้ผู้สูงวัยสามารถฟื้นฟูสุขภาพและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขและมีคุณภาพ