พวงคราม Petrea volubilis L.
เป็นไม้เลื้อยที่มีเถาใหญ่แข็งแรง กิ่งก้านก็ค่อนข้างแข็ง เถาอ่อนก็มีขนแต่เมื่อเถาแก่ขนก็จะหายไปเปลือกของต้นหรือเถาเป็นสีขาวหรือสีน้ำตาลอ่อนเถา
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Millingtonia hortensis L. f.
ชื่อสามัญ : Indian cork tree, Tree jasmine
ชื่อเรียกอื่น : กาซะลอง กาดสะลอง (ภาคเหนือ), เต็กตองโพ่ (กาญจนบุรี)
ชื่อวงศ์ : BIGNONIACEAE 010/1 31
ลักษณะวิสัย : ไม้ต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ สูงประมาณ 10 - 20 ม. เรือนยอดเป็นพุ่มทรงกระบอก กิ่งก้านมักจะย้อยลง เปลือกหนาสีเทาอมเข้ม แตกเป็นร่องลึกตามยาวของลำต้น ตามกิ่งมีช่องอากาศ รากเกิดเป็นหน่อเจริญเป็นต้นใหม่ได้
ใบ : ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ 2 - 3 ชั้น ใบประกอบย่อยเรียงตรงข้าม มี 3 - 5 คู่ รูปร่างใบย่อย เป็นรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบมนหรือเบี้ยว ขอบใบหยักหรือเว้าเป็นคลื่นเล็กน้อย ยาว 4-8 ซม. แผ่นใบเรียบค่อนข้างบาง ใบอ่อนด้านล่างจะมีขนนุ่มปกคลุม เส้นใบข้างละ 3-5 เส้น
ดอก : ดอกช่อแบบช่อกระจุกแยกแขนง ออกตามปลายกิ่ง ความยาวช่อดอก 10 – 30 ซม. ดอกย่อย กลีบเลี้ยงสีเขียวเชื่อมกันเป็นรูปกรวย ขนาดเล็ก 2-4 มม. ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกสีขาว กลิ่นหอม ฐานกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวยแคบ ปลายกลีบดอกแยกออกเป็น 4 แฉก มี 1 กลีบ ที่แยกเป็น 2 แฉก เกสรเพศผู้ 4 อันยาวเลยจากกลีบดอกเล็กน้อย เกสรเพศเมีย 1 อัน
ผล : ผลเป็นฝักแบนยาว รูปขอบขนาน ยาว 30 – 40 ซม. แบนข้างเล็กน้อย โคนและปลายแหลม ฝักแก่แตกเป็น 2 ซีก ตามแนวยาว
เมล็ด : เมล็ดแบน มีปีกบาง ขนาดยาว 2.5 ซม. การขยายพันธุ์ : ขยายพันธุ์โดยเพาะเมล็ด หรือแยกหน่อที่แตกจากราก
การกระจายพันธุ์ : ในทวีปเอเชีย จีนตอนใต้ พม่า ไทย ลาว กัมพูชาและเวียดนาม เป็นไม้พื้นเมืองของพม่าและไทย ขึ้นกระจายห่างๆ ในป่าเบญจพรรณและป่าดิบแล้ง พบในทุกภาคของไทย ยกเว้นภาคใต้
ประวัติพันธุ์ไม้ : เป็นพันธุ์ไม้มงคลพระราชทานประจ าจังหวัดพิษณุโลก และดอกปีบเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดปราจีนบุรี ประโยชน์และ
สรรพคุณ : นิยมปลูกประดับสองข้างถนน นิยมปลูกเป็นไม้ให้ร่มเงาในบ้านเนื่องจากมีกลิ่นหอม ทรง พุ่มสวยงาม เนื้อไม้ใช้ท าเครื่องเรือนต่าง ๆ และมีสรรพคุณเป็นยาพื้นบ้าน